วัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร หรือ วัดทะเลหญ้า หรือวัดทำเลหญ้า ปัจจุบันอยู่ในตำบลสวนพริก เป็นวัดโบราณตั้งอยู่กลางทุ่งนา ด้านทิศตะวันตกของแม่น้ำป่าสักริมคลองน้ำยาเดิม หรือปัจจุบันเรียกว่า คลองตะเคียนเหนือ หรือคลองขุนละคอนไชย ใกล้กับเพนียดคลองช้าง จากประวัติกรมพระคชบาลสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่ในรัชกาลสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เคยเป็นวัดของกรมพระคชบาลมาก่อน และยังเคยเป็นที่ตั้งค่ายทหารฝ่ายอยุธยาช่วงการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง เช่น ทัพของหมื่นทิพเสนา ปลัดกรมตำรวจในขวา ถือพล 1,000 นาย ตั้งพลที่วัดทะเลหญ้า
ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เมื่อ พ.ศ. 2302 ครั้งศึกอลองพญา ยกมาประชิดพระนคร ทหารฝ่ายอยุธยาแต่งทัพไปยันข้าศึกกองหน้าของพม่าแต่ถูกทัพพม่าตีแตกไล่มาจนถึงวัดทะเลหญ้า แม้ฝ่ายทหารอยุธยาตั้งค่ายหนุนอยู่ที่นั่นก็ยกออกไปช่วยแต่ถูกข้าศึกตีแตกพ่ายไปอีก วัดทะเลหญ้าจึงถูกทิ้งร้างกลายเป็นโคกอยู่กลางทุ่งหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2310 เป็นต้นมา แม้กองทัพพม่าได้เผาพระที่นั่งเพนียด แต่วัดคงไม่ได้ถูกไฟไหม้ไปด้วยเพราะปรากฎว่ายังมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ตลอดเวลาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์
ต่อมา เมื่อปี พ.ศ. 2419 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ ได้เสด็จไปทอดพระเนตรการคล้องช้างที่พระนครศรีอยุธยา ทรงเห็นว่าเป็นวัดที่ชำรุดทรุดโทรม จึงทรงบริจาคเงินบูรณปฏิสังขรณ์โบสถ์ วิหารของวัดใหม่ทั้งหมด ในลักษณะสร้างวัดขึ้นมาใหม่ในที่วัดร้างเพราะศิลปกรรมภายในพระอุโบสถ วิหาร เจดีย์ รูปศิลปะต่างๆ เป็นลายเครือวัลย์ล้อมพระมหามาลา อาจเป็นตราประจำองค์พระผู้สถาปนาวันนี้ ล้วนเป็นศิลปกรรมสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ทั้งสิ้น แล้วทรงถวายเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานชื่อใหม่ว่า “วัดบรมวงศ์อิศรวราราม” พร้อมทั้งเสด็จพระราชดำเนินตัดลูกพัทธสีมา พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมายังวัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหารถึง 8 ครั้ง
ใน พ.ศ. 2444 หลังจากสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยาบำราชปรปักษ์สิ้นพระชนมแล้ว 15 ปี ปรากฏว่า ผนังอุโบสถด้านทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ได้ทรุด พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานความช่วยเหลือซ่อมแซม ส่วนเสนาสนะอื่น ๆ นั้น พระยาปริยัติวงศาจารย์ได้บูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมา สิ่งศักดิ์สิทธิ์และสิริมงคลสำคัญของวัด คือ ประวัติศาสตร์ของวัดกับรัชกาลที่ 5 มีรูปหล่อเคารพพระองค์ในวิหาร นอกจากนี้ยังมีพระตำหนักของพระองค์เป็นที่เก็บรูปภาพโบราณและพระราชประวัติตั้งแต่ประสูติจนถึงสวรรคต ส่วนเจดีย์ทรงกลมที่ตั้งอยู่ระหว่างพระอุโบสถกับวิหาร สร้างบนเนินเจดีย์โบราณของวัดเพื่อเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระอัฐิกับพระสรีรางคาร ของสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยาบำราบปรปักษ์