“วัดหน้าพระเมรุ” ตั้งอยู่ริมคลองสระบัวตรงข้ามพระราชวังโบราณ วัดหน้าพระเมรุเป็นอารามหลวงสามัญชั้นตรี
ตามตำนานกล่าวว่าพระองค์อินทร์ในรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2047 พระราชทานนามว่า วัดพระเมรุราชิการาม ต่อมาเรียกกันภายหลังว่า วัดหน้าพระเมรุ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นวัดซึ่งสร้างขึ้นตรงที่ถวายพระเพลิงกษัตริย์องค์ใดองค์หนึ่งในต้นสมัยอยุธยา
จากหัวข้อที่ว่า “ทำไมพม่า ไม่เผาวัดหน้าพระเมรุ คำตอบคือ เพราะพม่าได้ใช้วัดหน้าพระเมรุแห่นี้เป็นที่ตั้งกองบัญชาการนั่นเองค่ะ
วัดหน้าพระเมรุ มีพระอุโบสถเป็นแบบอยุธยาตอนต้น ซึ่งมีการเจาะช่องแสงแทนการใช้หน้าต่าง แต่น่าจะเพิ่มเสารับชายคาภายหลังในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระประธานในอุโบสถเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องหล่อสำริดขนาดใหญ่ที่สุดที่ปรากฏและมีความงดงามมาก เป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย
ด้านหลังยังมีพระอีกองค์หนึ่งขนาดเล็กกว่า คือพระศรีอริยเมตไตรย ในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ได้มีการปฏิสังขรณ์วัดนี้ โดยรักษาแบบอย่างเดิมไว้ และได้เชิญพระพุทธรูปศิลาแบบานั่งห้อยพระบาทสมัยทวาราวดีจากวัดมหาธาตุมาไว้ในพระวิหารน้อยซึ่งอยู่ข้างพระอุโบสถพระพุทธรูปศิลาแบบนั่งห้อยพระบาท
สถาปัตยกรรมของวัดอยู่ในสมัยอยุธยาตอนต้น คือ พระอุโบสถไม่มีหน้าต่าง แต่เจาะช่องไว้เป็นลูกกรง พระประธานเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ ทรงเครื่องปางมารวิชัย หน้าบันไม้สักลงรักปิดทองสลักรูปพระนารายณ์ทรงครุฑยุดเศียรนาค หน้าราหู ล้อมรอบด้วยหมู่เทพพนม 26 องค์
ตรงอาสนสงฆ์มีจารึกเป็นร่ายสุภาพ และกาพย์ยานี วัดหน้าพระเมรุได้รับการปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์