วันที่ 4 มีนาคม 2563 เวลา 10.00 น. นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันรณรงค์ลดการเผาในท้องถิ่น ภายใต้โครงการส่งเสริมการหยุดการเผาในพื้นที่การเกษตร
โดยมี นางอภิญญา เอี่ยมอำภา นายอำเภอผักไห่กล่าวต้อนรับ
นายวรชันย์ หลักกรด เกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้กล่าวรายงาน เพื่อสร้างการรับรู้การเผาในพื้นที่การเกษตร มีพี่น้องเกษตรกร ประชาชนผู้สนใจ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมจำนวนทั้งสิ้น 200 คนเข้าร่วม ณ แปลงนาพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.ลำตะเคียน อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
นายวรชันย์ หลักกรด เกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตามที่เกิดสถานการณ์หมอกควันเนื่องจาก การเผาเศษซากพืชหรือวัชพืชและเศษวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่การเกษตร ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม การคมนาคม และการท่องเที่ยว ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการเผาตอซัง เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูกข้าวในฤดูกาลเพาะปลูกจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีเนื้อที่เพาะปลูกข้าวประมาณเก้าแสนไร่
ซึ่งเกษตรกรบางส่วนยังมีการเผาเศษวัสดุทางการเกษตรก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ จึงได้มีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ และรณรงค์ให้เกษตรกรตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากการเผาเศษซากพืชหรือวัชพืช และเศษวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่การเกษตร และแนวทางการจัดการเศษวัสดุทางการเกษตรให้เกิดประโยชน์
สร้างทางเลือกในการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไปใช้แทนการเผา เพื่อให้เกิดประโยชน์ และสร้างรายได้เช่น การเพาะเห็ดฟางในตะกร้า การทำฟางอัดก้อนการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวล รวมทั้งการลดต้นทุนการผลิตเช่น การทำปุยอินทรีย์ หรือการไถกลบเพื่อเพิ่มปุ๋ยในดิน เป็นต้น
อีกทั้งนายภานุ แย้มศรี กล่าวว่า แนวทางการไม่เผานาเป็นแนวทางที่ถูกต้อง อย่างแรกคือการสร้างการรับรู้ให้พี่น้องเกษตรกร ว่าการเผานานั้นก่อเกิดปัญหาให้กับบ้านเราอย่างไรการสร้างการรับรู้เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก อย่างที่สองคือการส่งเสริมให้เกิดทางเลือกใหม่ ๆ หากไม่เผานาแล้ว มีวิธีการอะไรที่จะนำฟางข้าวไปใช้ประโยชน์ จูงใจเกษตรกรไม่เผานาจะได้ลดดอกเบี้ยหนี้สินเกษตรกรซึ่งจะเป็นแนวทางต่อไป