วัดเจ้าย่า(ร้าง) จ.พระนครศรีอยุธยา
.. ที่ลอบปลงพระชนม์ขุนวรวงศา
และแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์
📌.. วัดเจ้าย่าสภาพของวัดถูก ถนนเล็กๆตัดผ่ากลาง แบ่งวัดเป็นสองฝั่งถนนเป็นฝั่งด้านติดคลองสระบัวที่ตื้นเขินแล้วซึ่งเป็น พุทธาวาสและตรงข้ามเป็นเขตสังฆาวาสมีอุโบสถและเจดีย์อยู่หลายองค์ เส้นทางคลองสระบัวนี้
.. สมัยก่อนเป็นทางของพระเจ้าแผ่นดินที่ไปพะเนียดคล้องช้าง สถาปัตยกรรมในวัดอ่านโพยมาก่อน
ว่าเป็นรุ่นปรับปรุงในยุคพระเจ้าบรมโกศสมัยยังเป็นวังบวร ในพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระและมาดูแลบำรุงอยู่ยุคเดียวกัน
📌.. มีบันทึกไว้ว่ามีการปรับปรุงตำหนักพระพุฒโฆษาจารย์วัดพุทไธสวรรย์ วัดกุฎีดาว วัดมเหยงคณ์ด้วย สภาพตัวสถาปัตยกรรมโดยเฉพาะวิหารที่เห็นก็เลยดูคล้ายคลึงกัน กับวัดในกลุ่มหลังนี้โดยเฉพาะการทำโบสถ์วิหารด้วยกำแพงหนาหนัก และการเปิดช่องหน้าต่างด้านข้างที่ใหญ่โตขึ้น แต่คงจะเป็นการปรับปรุงหรือสร้างบางอาคารใหม่ครอบตัววัดเดิมน่าจะมีมาก่อนนานแล้ว และที่สำคัญคือหนึ่งในเจดีย์ฝั่งสังฆาวาสนั้นมีเจดีย์แปดเหลี่ยมในยุคต้นอยุธยาหรือก่อนนั้นปรากฏตัวอยู่ด้วย
.. พอถึงรุ่นรัตนะก็มีบันทึกการซ่อมบำรุงในสมัย รัชกาลที่๔ และไม่นานมานี้ไม่ถึงสิบปีกรมศิลป์ก็มาปรับปรุงสภาพที่เห็นเลยดูค่อนข้างสมบูรณ์ ช่วงประมาณปีพศ.๒๕๔๙ ซึ่งตอนน้ำท่วมที่นี่ก็เจอศึกหนักเอาทีเดียว
📌.. เมื่อ พ.ศ. ๒๐๗๒ เจ้าแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์กับขุนวรวงศาธิราชเสด็จไปคล้องช้างที่เพนียด ผ่านมาทางคลองสระบัว ขุนพิเรนทรเทพกับพวกได้เข้าสกัดกระบวนเรือพระที่นั่งจับเจ้าแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ ขุนวรวงศาธิราช และราชบุตรที่เกิดด้วยกันฆ่าเสีย ความปรากฏในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาว่า
.. “ครั้นเช้าตรู่ขุนวรวงศาธิราชกับแม่เจ้าอยู่หัวศรีสุดาจันทร์และราชบุตรที่เกิดด้วยกันนั้น ทั้งพระศรีศิลปก็ลงเรือพระที่นั่งลำเดียวกันมาตรงคลองสระบัว ขุนอินทรเทพก็ตามประจำมา ฝ่ายขุนพิเรนทรเทพ พระยาพิชัย พระยาสวรรคโลก หลวงศรียศ หมื่นราชเสน่หาในราชการ ครั้นเห็นเรือพระที่นั่งขึ้นมาก็พร้อมกันออกสกัด ขุนวรวงศาธิราชร้องไปว่าเรือใครตรงเข้ามา ขุนพิเรนทรเทพก็ร้องตอบไปว่า กูจะมาเอาชีวิตเองทั้งสอง ฝ่ายขุนพิเรนทรเทพก็เร่งให้พาย รีบกระหนาบเรือพระที่นั่งขึ้นมา แล้วช่วยกันเข้ากลุ้มรุมจับขุนวรวงศาธิราชกับแม่เจ้าอยู่หัวศรีสุดาจันทร์และบุตรซึ่งเกิดด้วยกันนั้นฆ่าเสียแล้วให้เอาศพไปเสียบประจาน ณ วัดแร้ง”
เครดิตภาพและข้อมูลจากเฟสบุ๊ก : noppadol tueanjit