จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สรุปผลการปฏิบัติงานและสถิติการเกิดอุบัติเหตุ 7 วัน
ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เกิดอุบัติเหตุ 56 ครั้ง
วันนี้ (17 เม.ย.62) ที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2562
มีการประชุมสรุปผลการปฏิบัติงานของ 7 วันช่วงเทศกาลสงกรานต์ในภาพรวมของ 16 อำเภอ
มีนางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธาน พบว่า รวม 7 วัน
มีผู้เสียชีวิต 3 ราย
สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากความประมาท เมาสุรา และขับรถเร็วเกินกำหนด
ประเภทถนนที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ถนนทางหลวงแผ่นดิน ถนนทางหลวงชนบท ถนน อบจ และ ถนนในหมู่บ้าน อบต.
ส่วนการจัดตั้งจุดตรวจ/จุดบริการ/ด่านชุมชน มีจำนวนทั้งสิ้น 139 จุด และอำเภอที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ
มีด้วยกัน 10อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอท่าเรือ นครหลวง บางปะหัน บางไทร บ้านแพรก
เสนา ผักไห่ มหาราช ภาชี และ และอำเภอลาดบัวหลวง ผลการดำเนินคดี
กับผู้กระทำผิดตามมาตรการ 10 มาตรการหลัก 106,568 คัน 25.212 คดี ถูกดำเนินคดีเมาแล้วขับ 468 คดี
ประเภทรถที่ถูกดำเนินคดี 467 คดี และรถที่ถูกยึด 174 คัน
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ในขั้นเฝ้าระวังฝุ่นละออง หลังพบค่าปริมาณเกินค่ามาตรฐาน พร้อมเชิญชวนทุกภาคส่วนปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างสภาพอากาศที่ดี
นายพฤกษ์ โสโน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ตรวจวัดค่าปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ โดยมีจุดตรวจของกรมควบคุมมลพิษ 2 จุด คือ บริเวณโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา และ อบต.บ่อโพง อำเภอนครหลวง
ผลการตรวจวัด พบว่า บริเวณโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมโครกรัม (PM 2.5) อยู่ที่ 63 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ ส่วนค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมโครกรัม (PM 10) อยู่ที่ 113 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าเริ่มเข้าสู่ภาวะที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย และต้องเฝ้าระวังด้านสุขภาพแล้ว ส่วนที่บริเวณบ่อโพงยังอยู่ในสภาพอากาศที่ยังปกติ โดยมีค่า PM 2.5 อยู่ที่ 43 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนค่า PM 10 อยู่ที่ 53.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้ประกาศเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวัง ด้วยการทำกิจกรรมต่างๆ ภายในร่มหรือในบ้านเรือน แต่หากจำเป็นต้องออกกลางแจ้งควรมีหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง พร้อมทั้งให้ประชาชนงดการเผาหญ้าหรือตอซังข้าว ส่วนมาตรการในระยะยาว ได้บูรณการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบและควบคุมการปล่อยฝุ่นและควันของโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงจุดสุ่มเสี่ยงบริเวณที่มีการสัญจรของยานพาหนะจำนวนมาก เพื่อตรวจวัดคุณภาพของรถที่จะปล่อยควันเสียจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์
“การตรวจวัดค่าทั่วไปในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตอนนี้เริ่มจะมีหมอกควันที่ค่อนข้างจะต้องเฝ้าระวัง ซึ่งลักษณะแบบนี้ถ้าเราไม่เข้าสู่การการป้องกัน ในอนาคตอาจจุรุนแรงขึ้น ถ้าหากยังไม่มีฝนลงมาในเร็วๆ นี้ แต่ทราบข้อมูลจากกรมอุตุฯ ว่า ภายในวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์นี้ คาดว่าน่าจะมีความชื้นลงมา อาจจะทำฝนเทียมหรือว่ามีฝนตกได้”
นายพฤกษ์ โสโน กล่าวอีกว่า มาตรการแก้ไขฝุ่นละอองที่เห็นได้ชัดอีกวิธีการหนึ่งคือ การปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว ซึ่งปีที่ผ่านมาได้ปลูกป่าไม้ไปแล้วกว่า 4 หมื่นต้น และปีนี้ตั้งเป้าปลูกเพิ่มอีก ซึ่งจะส่งผลให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีป่าไม้กลางตัวเมือง ทำให้เกิดสภาพอากาศที่ดีขึ้น
วันนี้ (5 พ.ย.61) ที่ศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมอยุธยา นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายมิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ร่วมเป็นประธานเปิดโครงการ “โตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา” ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกนอกโรงงาน ตั้งอยู่ที่หน้าตลาดหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เมืองสีเขียว เพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต สะท้อนการใช้ชีวิตในเมืองอย่างมีคุณภาพร่วมกับธรรมชาติ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นจังหวัดที่ 4 ที่บริษัทโตโยต้าได้นำองค์ความรู้ในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ มาประยุกต์ใช้ และยังเป็นจังหวัดแรกที่ต่อยอดองค์ความรู้ ด้วยความร่วมมือของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา บูรณะเรือนจำเก่า บนพื้นที่ 8 ไร่ ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกนอกโรงงาน เชื่อมโยงจากศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน “ชีวพนาเวศ” ในโรงงานโตโยต้าบ้านโพธิ์ ผ่านการนำองค์ความรู้ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมทั้ง 5 ด้านมาประยุกต์ใช้และนำเสนอเป็นแนวทางให้เกิดขึ้นภายในพื้นที่เมืองสีเขียว นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มพื้นที่สีเขียว การจัดการขยะ การอนุรักษ์น้ำ การเดินทางอย่างยั่งยืน การลดการใช้พลังงาน และการใช้พลังงานทางเลือก โดยเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น. ส่วนอาคารนิทรรศการ เปิดบริการตั้งแต่ 10.00-17.00 น. ซึ่งจะมีเยาวชนโตโยต้า เมืองสีเขียว เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้และเรื่องราวแก่ผู้เข้าชม
#GoAyutthaya #Ayutthaya #AyutthayaThailand #Thailand #อยุธยา#ไปอยุธยา #เที่ยวอยุธยา
#ชมอยุธยา #เมืองอยุธยา #จังหวัดพระนครศรีอยุธยา #พระนครศรีอยุธยา #จังหวัดอยุธยา #แหล่งโบราณ
#เมืองมรดกโลก #ออเจ้า #ตามรอยบุพเพสันนิวาด #แม่หญิงการะเกด #คุณพี่เดช #ท่านหมื่น
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชวนคนเมืองปลูกข้าว และบริโภคข้าวคุณภาพดี หลังเก็บเกี่ยวได้ผลผลิตไร่ละ 300-400 กิโลกรัม
นายวรชันย์ หลักกรด เกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บูรณาการจัดโครงการ “ ชวนคนเมืองปลูกข้าว” โดยเปิดโอกาสให้คนในกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงเสนอเข้าร่วมปลูกข้าวพันธุ์ กข.43 ไร่ละ 14,000 บาท บนพื้นที่ 169 ไร่ ของตำบลไทรน้อย อำเภอบางบาล ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายของธรรมชาติ บนแปลงนาเขียวขจีไปด้วยต้นข้าว ด้วยฝีมือของตนเอง พร้อมท่องเที่ยวเชิงเกษตร และรับประทานอาหารรสอร่อยจากฝีมือต้นตำหรับของชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปพร้อมๆ กัน
เพราะนอกจากผู้เข้าร่วมโครงการจะได้บริโภคข้าวที่มีรสชาติอร่อย หอม นุ่ม และปลอดภัย แล้ว ยังสามารถเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรจากการขายข้าวโดยตรงให้กับผู้บริโภค และได้ราคาสูง ที่สำคัญมีต้นแบบการพัฒนากิจกรรมต่อยอดไปถึงแปลงนาอื่นๆ ด้วย พร้อมระบุ ชวนคนเมืองปลูกข้าวนี้ ผู้สมัครสามารถรวมกลุ่มด้วยกันเองได้ถึง 5 คน เฉลี่ยรายละ 2,800 บาทต่อไร่
นายวรชันย์ หลักกรด กล่าวอีกว่า เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการฯ ทันต่อการผลิตข้าวนาปี 2561 เกษตรจังหวัดฯ ได้กำหนดเปิดและเริ่มปลูกข้าวในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ ทำขวัญข้าววันที่ 11 สิงหาคม เก็บเกี่ยววันที่ 22 กันยายน และปิดลาน 24 พฤศจิกายน 2561 ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการติดต่อได้ที่
#GoAyutthaya #Ayutthaya #AyutthayaThailand #Thailand #อยุธยา #ไปอยุธยา #เที่ยวอยุธยา #ชมอยุธยา
#เมืองอยุธยา #จังหวัดพระนครศรีอยุธยา #พระนครศรีอยุธยา #จังหวัดอยุธยา #แหล่งโบราณ #เมืองมรดกโลก
#ออเจ้า #ตามรอยบุพเพสันนิวาด #แม่หญิงการะเกด #คุณพี่เดช #ท่านหมื่น
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เตรียมความพร้อมจัดงานรำลึกพ่อหลวงเสด็จทุ่งมะขามหย่อง 25 พฤษภาคม นี้
วันนี้ ( 23 พฤษภาคม 2561) ที่ทุ่งมะขามหย่อง ตำบลบ้านใหม่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำทีมงานจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ปรับภูมิทัศน์ บริเวณพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รวมถึง หอจดหมายเหตุ ศาลากลางน้ำ และบริเวณโดยรอบ ที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเมื่อปี 2555 เพื่อเตรียมความพร้อมจัดงานรำลึกในหลวงรัชกาลที่ 9 ในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้
นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล เปิดเผยว่า ทาง อบจ. พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้หลอมดวงใจเป็นหนึ่งเดียวร่วมกันทำความสะอาดทุกพื้นที่ที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินทุ่งมะเขามหย่อง เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2555 เพื่อเยี่ยมเยียนและให้ขวัญกำลังใจพี่น้องประชาชนหลังเกิดอุทกภัยในปี 2554
ซึ่งทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความทุกข์ยากลำบาก ให้สมพระเกียรติอย่างสูงสุด พร้อมกันนี้ อบจ. ยังได้เลี้ยงปลาเพาะพันธุ์ปลาในกระชังในแก้มลิงทุ่งมะขามหย่องแห่งนี้อีกด้วย โอกาสนี้ ในวันที่ 25 พฤษภาคม ทุกภาคส่วนจะร่วมวางพานพุ่มดอกไม้สด เพื่อรำลึกถึงพระองค์ท่าน ซึ่งจะไปเชื่อมโยงกับสำนักงานเกษตรจังหวัดฯ กำหนดจัดงานน้อมรำลึกครบรอบ 6 ปีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินทุ่งมะขามหย่อง ณ แปลงนาส่วนพระองค์ เมื่อปี 2538 และทรงมีพระบรมราชานุญาต ให้ผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าสู่ที่ดินส่วนพระองค์บริเวณทุ่งมะขามหย่องและทุ่งภูเขาทองที่อยู่ติดกัน เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรที่ถูกน้ำท่วม และเก็บกักน้ำไว้ในสระนำไปใช้ประโยชน์ตามแนวพระราชดำริ ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวได้ปลูกข้าวอย่างต่อเนื่อง พร้อมทำเป็นแปลงสาธิตให้เกษตรกรทั่วทั้งจังหวัด
ขอบคุณภาพข่าวจากประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
#GoAyutthaya #Ayutthaya #AyutthayaThailand #Thailand #อยุธยา #ไปอยุธยา #เที่ยวอยุธยา #ชมอยุธยา
#เมืองอยุธยา #จังหวัดพระนครศรีอยุธยา #พระนครศรีอยุธยา #จังหวัดอยุธยา #แหล่งโบราณ #เมืองมรดกโลก
#ออเจ้า #ตามรอยบุพเพสันนิวาด #แม่หญิงการะเกด #คุณพี่เดช #ท่านหมื่น
เมื่อช่วงบ่าย วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 นายสันติ ชุดินธรา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และ แปซิฟิกใต้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ Ms. Lan Suhong (หลัน ซูหง) ที่ปรึกษาด้านวัฒนธรรมสถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวเทศกาลตรุษจีนประเทศไทย ประจำปี 2561 พร้อมสนับสนุน 12 พื้นที่ชุมชนชาวจีนเก่าแก่ และนำการแสดงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนร่วมเฉลิมฉลอง 4 เมืองหลัก ณ ห้องโถงชั้น 1 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ
โดยในพื้นที่ #จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับเกียรติจากนายคมสัน เจริญอาจ ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมออกบูธประชาสัมพันธ์ในงานแถลงข่าว
โดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยากำหนดจัดงาน “ตรุษจีนกรุงเก่าอยุธยามหามงคล”
ครั้งที่ 12 ประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 17-22 กุมภาพันธ์ 2561
ณ ถนนนเรศวร อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
งานแถลงข่าวจัดขึ้นท่ามกลางสื่อมวลชน และผู้มีเกียรติร่วมงานกันอย่างคึกคัก
ายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จังหวัดฯ กำหนดจัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก ประจำปี 2560” ระหว่างวันที่ 15-24 ธันวาคมนี้ ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งงานนี้จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเมืองมรดกโลก หลังจากยูเนสโกขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาไว้ในบัญชีมรดกโลกทางวัฒนธรรม พร้อมกันนี้ จังหวัดยังได้รณรงค์แต่งกายผ้าไทยร่วมสืบสานประเพณี และเฉลิมฉลองงานมรดกโลก ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม พบว่า ทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือ รวมถึงช่วงการจัดงาน ได้เชิญชวนให้ผู้เข้าชมงานแต่งกายผ้าไทยด้วย
สำหรับกิจกรรมภายในงานจะได้ชมการแสดงแสงเสียงยิ่งใหญ่ตระการตา ตลาดย้อนยุค ถนนคนเดิน ถนนกินเส้น ลานวัฒนธรรม เทศกาลอาหารนานาชาติ งานกาชาด การประกวด the best to be number การประกวดเยาวชนคนเก่ง การประกวดหนูน้อยกรุงเก่า การประกวด miss Ayutthaya การประกวด Ayutthaya talent การจัดแสดงภาพยนตร์ซีรีส์เทิดพระเกียรติ “ศรีอโยธยา และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายท่ามกลางบรรยากาศเมืองมรดกโลก และจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ธันวาคมอย่างยิ่งใหญ่ โดยนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน
ข้อมูลจาก : https://www.facebook.com/prd.ayutthaya.net