บริเวณนี้เรียกว่าทุ่งภูเขาทอง ในอดีตเคยเป็นสมรภูมิรบหลายครั้งหลายคราว วีรบุรุษของไทยนับไม่ถ้วนได้เสียสละชีวิตเลือดเนื้อเพื่อปกป้องอธิปไตยและดำรงไว้ซึ่งความเป็นไท เมื่อ พ.ศ. 2129 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงกระทำศึกอย่างเหี้ยมหาญ
ไม่ไกลจากทุ่งมะขามหย่อง อันเป็นที่ตั้งของพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย คือสมรภูมิรบไทย-พม่าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง เรียกว่า ทุ่งภูเขาทอง อันเป็นผืนแผ่นดินที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงกระทำศึกอย่างเหี้ยมหาญ จนมีชัยชนะเหนือกองทัพพพม่า เมื่อ พ.ศ. 2129 พื้นที่นี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและรำลึกถึงมหาวีรกรรมในครั้งนั้น
และเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในมหามงคลเฉลิมฉลองทรงครองราชย์สมบัติครบ 50 ปี และยังได้อนุรักษ์บริเวณประวัติศาสตร์และโบราณสถานสำคัญของชาติซึ่งกลายเป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดด้วยอีกทาง ทั้งนี้ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้เสด็จเปิดพระราชานุสาวรีย์ เมื่อวันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2544 บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์มีพื้นที่ทั้งหมด 543 ไร่ มีพื้นที่จัดกิจกรรมและจัดแต่งภูมิทัศน์บริเวณรอบอนุสาวรีย์ให้เป็นสวนสาธารณะพักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชน
ส่วนพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อยู่ในลักษณะทรงม้าศึก ประดิษฐานบนแท่นฐานและลานหินสีขาว องค์พระบรมรูปขนาด 3 เท่า จำลองเหตุการณ์ตอนทรงม้าออกมาสังหารลักไวทำมูทหารเอกของพระเจ้าหงสาวดี ลานบันสร้างด้วยหินอ่อนและหินแกรนิต มีไก่ตัวผู้หรือไก่ชนที่ประชาชนนำมาสักการะพระองค์ท่านมากมาย รอบฐานสลักภาพนูนต่ำบรรยายพระราชประวัติและวีรกรรมสำคัญรวม 11 ภาพ อาทิ ตอนชนไก่ในกรุงหงสาวดี ตอนยิงพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง พระแสดงดาบคายค่าย เหตุการณ์สังหารลักไวทำมู และตอนประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง เป็นต้นซึ่งใครที่อยากรับทราบพระราชประวัติอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ก็สามารถเข้าไปศึกษาได้ที่อาคารพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช