ที่มาของโพสต์ : เพจตามรอยวัดเก่า ลุ่มน้ำลพบุรี
โพสต์เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2019
..
ภาพลงสี มุมป้อมมหาไชย หัวรอ
จ.พระนครศรีอยุธยา ในอดีต
กับการเปลี่ยนแปลง
ในหน้าประวัติศาสตร์สู่ยุคปัจจุบัน
ป้อมมหาไชย จุดยุทธศาสตร์สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ ปรากฎความในพระราชพงศารดาว ความตอนหนึ่งว่า
“ลุศักราช ๑๑๒๙ (พ.ศ.๒๓๑๐) ปีกุน นพศก ถึง ณ วันอังคาร ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๕ วันเนาว์สงกรานต์วันกลาง พม่าจุดเพลิงเผาฟืนเชื้อใต้รากกำแพงตรงหัวรอ ริมป้อมมหาไชย และพม่าค่ายวัดการ้อง วัดนางปลื้ม และค่ายอื่นๆทุกค่ายจุดปืนใหญ่ ป้อมปืนและหอรบ ยิงระดมเข้ามาในกรุงพร้อมกัน ตั้งแต่เพลาบ่าย ๓ โมงเศษจนพลบค่ำ พอกำแพงที่จุดเชื้อฟืนเผารากนั้นทรุดลงหน่อยหนึ่ง ถึงเพลาสองทุ่ม จึงให้จุดปืนสัญญาขึ้น พลพม่าทุกด้านทุกกองซึ่งเตรียมไว้ ก็เอาบันไดพาดที่กำแพงทรุด และที่อื่นๆ รอบพระนครพร้อมกัน ก็ปีนเข้ากรุงได้ในเพลานั้น” “
ปัจจุบันบริเวณป้อมมหาไชยนั้น ใช้ชื่อใหม่คือ “ตลาดหัวรอ”
มีชุมชนที่เป็นย่านการค้าที่มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยมณฑลกรุงเก่า โดยมีตลาดน้ำหัวรอเป็นตลาดการค้าทางน้ำที่มีผู้คนเข้ามาซื้อขายสินค้าอย่างคับคั่ง โดยตลาดหัวรอ ตั้งอยู่บริเวณ หัวมุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเมือง มีลักษณะเป็นชุมทางแม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำป่าสักมาบรรจบกันจึงเป็นทำเลที่เหมาะสมสำหรับการค้าขายทางน้ำ เพราะเส้นทางแม่น้ำสามารถเดินทางเชื่อมต่อทั้งกับเมืองต่างๆที่อยู่ด้านเหนือขึ้นไป เช่น สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี จึงส่งผลให้ราษฎรในหัวเมืองใกล้เคียงเหล่านั้นเข้ามาทำการค้ากันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริเวณตลาดน้ำหัวรอยังตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณที่ว่าการมณฑลกรุงเก่าในพระราชจันทรเกษม รวมถึงสถานที่ราชการอื่นๆเช่น ที่ทำการไปรษณีย์ ที่ว่าการศาล หอทะเบียนที่ดิน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ราษฎรต้องมาติดต่ออยู่เสมอ ปัจจัยเหล่านี้จึงส่งเสริมให้ย่านตลาดน้ำหัวรอมีลักษณะเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วย แพค้าขายรวมถึงเรือสินค้าที่มีสินค้าจัดจำหน่ายและบริการอย่างหลายหลาก ตลาดน้ำหัวรอจึงมีความหนาแน่นของผู้คนทั้งชาวกรุงเก่าและพ่อค้าต่างถิ่นที่เข้ามาติดต่อค้าขายอย่างคึกคัก แต่อย่างไรก็ดีนับตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๖๐ ตลาดน้ำหัวรอเริ่มมีการพัฒนาไปสู่การค้าทางบกโดยมีการสร้างห้องแถวใหม่เป็นเครื่องไม้หลังคามุงสังกะสีจำนวนถึง ๒๒๖ ห้อง รวมทั้งยังมีการสร้างโรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ และโรงแรมในบริเวณตลาดหัวรอมากขึ้น การขยายตัวของตลาดบกหัวรอดังกล่าว ได้สะท้อนให้เห็นว่าย่านการค้าแห่งใหม่ของเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา เริ่มขยายตัวไปตามเส้นทางคมนาคมทางบกมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันยังคงเป็นตลาดที่ยังมีลมหายใจของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แม้กาลเวลาในภาพเก่าจะเปลี่ยนไปก็ตาม
– เครดิตภาพเก่า ร้านก๋วยเตี๋ยวป้าแจ๋ว ตลาดหัวรอ
– พระราชพงศารดาวกรุงศรีอยุธยา
– เครดิตข้อมูล” คุณ ศุภสุตา ปรีเปรมใจ (Suppasuta Prepremjai) อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ลิง์นี้ https://www.tci-thaijo.org/…/Verid…/article/view/40450/33383