ใกล้เทศกาลปีใหม่แบบนี้ หลายๆคนอาจไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศ หรือไปต่างจังหวัดแบบไกลๆ
แอดมินเชื่อว่าคนที่อยู่ในติดบ้านก็มีไม่น้อย วันนี้จึงถือโอกาสที่จะพาทุกคนไปทัวร์ที่จังหวัด พระนครศรีอยุธยา
พาไปไหว้เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเอง หรือใครจะชักชวนครอบครัว ญาติพี่น้อง คนรักไปด้วย ก็เห็นจะดีงาม
ไปค่ะ…ไปดูกันว่าวัดที่แอดมินจะพาไปทัวร์และไหว้พระในวันหยุดยาว ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้นมีวัดอะไรกันบ้าง
ไปอยุธยาแล้ว คุณจะต้องไปวัดนี้ เล่าให้ฟังคร่าวๆ เดิมวัดนี้มีชื่อว่า “วัดป่าแก้ว” หรือ “วัดเจ้าไท” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา
จุดเด่น : เจดีย์องค์ใหญ่ เชื่อกันว่า ได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ภายในได้มีการค้นพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่ภายในพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล พระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด
ที่ตั้ง : 40/3 หมู่ที่ 3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา
วัดมหาธาตุเป็นวัดที่เก่าแก่ และมีประวัติที่ไม่แน่ชัด บ้างบอกปี พ.ศ.1917 บ้างบอกปี พ.ศ.1927 อย่างไรก็ตาม ได้ใช้เวลาก่อสร้างไปเป็นจำนวนมาก สำหรับวัดนี้เป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร และเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสีอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงได้รับการก่อสร้างและดูแลตลอดเวลาจวบจนถูกทำลายลงหลังเสียกรุงครั้งที่ 2
จุดเด่น : พระปรางค์ขนาดใหญ่ ที่พังทลายลงมาหมด แต่ยังพอให้เห็นสัตว์ในป่าหิมพานต์ที่รายล้อมอยู่เชิงเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นแกนกลางของจักรวาล และวิหารเล็ก ที่มีรากไม้แผ่รากขึ้นเกาะเต็มผนัง รากไม้ส่วนหนึ่งได้ล้อมเศียรพระพุทธรูปไว้ด้วย
ที่ตั้ง : ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา
3. วัดไชยวัฒนาราม
วัดไชยวัฒนาราม หรือวัดชัยวัฒนาราม เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลาย สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พ.ศ.2173 เดิมบริเวณที่ตั้งของวัดนี้ เคยเป็นที่อยู่ของพระราชมารดาที่ได้สิ้นพระชนม์ไป ก่อนที่พระเจ้าปราสาททองได้เสวยราชสมบัติเป็นกษัตริย์
เมื่อพระองค์ได้เสวยราชสมบัติ พระองค์จึงได้สร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้น เพื่ออุทิศผลบุญนี้ให้กับพระราชมารดาของพระองค์ และอีกประการหนึ่งวัดนี้อาจถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือเขมรด้วย จึงทำให้มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมส่วนหนึ่งมาจากปราสาทนครวัด
จุดเด่น : ปรางค์ประธานและปรางค์มุมอยู่บนฐานเดียวกัน รอบพระปรางค์ใหญ่ล้อมรอบไปด้วยระเบียงคตที่เดิมนั้นมีหลังคา ภายในระเบียงคตประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่เคยลงรักปิดทองจำนวน 120 องค์ เป็นเสมือนกำแพงเขตศักดิ์สิทธิ์ และเมรุทิศเมรุราย ตั้งล้อมรอบพระปรางค์อยู่ทั้งสิ้น 8 องค์
ที่ตั้ง : ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา
4. วัดธรรมิกราช
เดิมชื่อ “วัดมุขราช” เป็นอดีตพระอารามหลวงในสมัยกรุงศรีอยุธยา สร้างขึ้นโดย พระยาธรรมิกราชโอรสของพระเจ้าสายน้ำผึ้ง จึงสันนิษฐานว่าคงสร้างขึ้นก่อนที่จะสถาปนากรุงศรีอยุธยา ปัจจุบันยังเป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษาและปฏิบัติธรรมอยู่ โดยมีพระครูสมุห์ธรรมภณเป็นเจ้าอาวาส
จุดเด่น : วิหารเก้าห้อง พระนอนในวิหาร เจดีย์สิงห์ล้อม ที่มีสิงห์ปูนปั้นอิทธิพลเขมร ตั้งล้อมรอบเจดีย์ประธาน และปิดท้ายด้วยสิ่งที่สำคัญที่สุดของวัดนี้ “เศียรพระพุทธรูปหล่อสำฤทธิ์” เป็นศิลปะสมัยอู่ทอง เดิมอยู่ในวิหารหลวงมีความศักดิ์สิทธิ์มาก กล่าวว่า ผู้ใดเป็นคดีความกันมาสาบานต่อหน้าพระพักตร์ คนผิดต้องตายหรือมีอันเป็นไปทุกคน แต่ตอนนี้เศียร์พระพุทธรูปนี้ ตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยาแล้ว
ที่ตั้ง : ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา
5. วัดพนัญเชิงวรวิหาร
สวยงามมากๆ พระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร แบบมหานิกาย วัดนี้ก่อสร้างก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา และไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง
จุดเด่น : พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา หน้าตักกว้าง 20 เมตรเศษ สูง 19 เมตร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย
ที่ตั้ง : หมู่ 2 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา
แต่ละวัดก็มีความน่าสนใจแตกต่างกันไป ทั้งในส่วนของศิลปะวัฒนธรรม ความศักดิ์สิทธิ์ ประวัติ ตำนานต่างๆ หากใครยังไม่รู้จะไปไหว้พระที่ไหน ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ก็มีข้อมูล “วัด” ของจังหวัดอื่นๆ มาให้ทุกคนได้อ่านเช่นกัน เผื่อจะช่วยตัดสินใจเรื่อง สถานที่เที่ยว วัดไหว้พระในวันหยุดได้.